ชวนทำ “ขนมกรวย” สูตรโบราณ แป้งนุ่มหอม ละมุนลิ้น ราดหน้ากะทิ อร่อยกลมกล่อม
วันนี้ มีสูตรขนมไทยดั้งเดิมมาฝากค่ะ “ขนมกรวย” ซึ่งเป็นขนมชนิดหนึ่ง ทำด้วยแป้งข้าวเจ้า กะทิ น้ำตาลปีบ เป็นอีกเมนูขนมไทยที่ทุกวันนี้เริ่มหาทานได้ยากแล้ว เราจึงนำสูตรขนมนี้มาแบ่งปันให้เพื่อนๆได้ลองทำกันดูค่ะ เรามาดูขั้นตอนกันเลย
*ส่วนผสม
ตัวขนมกรวย
1. แป้งข้าวเจ้า 3/4 ถ้วย
2. แป้งมัน 1/2 ช้อนโต๊ะ
3. แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำ + น้ำใบเตยหรือน้ำอัญชัน 1 3/4 ถ้วย
5. น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
***การตวงทุกอย่าง ที่เป็น ถ้วย ใช้ถ้วยตวงเพียง 2 ขนาด คือ 1ถ้วย กับ 1/4 ถ้วย***
หน้าขนมกรวย
1. หัวกะทิ 3/4 ถ้วย
2. หางกะทิ 1 3/4 ถ้วย + 2 ช้อนโต๊ะ
3. แป้งเจ้า 1/2 ถ้วย
4. แป้งมัน 1 ช้อนชา
5. แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา
6.เกลือ 1 ช้อนชา
**ขั้นตอน
– จะทำขนมชนิดนี้ สิ่งที่ต้องเตรียมก็คือกรวย แต่ก่อนจะเตรียมกรวย ก็ต้องเตรียมไม้กลัดก่อน เพราะการกลัดกรวยด้วยไม้กลัด จะสะดวกในการกิน
1. ไม้กลัดขนาดปกติ ใช้กลัดห่อขนม ซึ่งห่อด้วยใบตอง
2. ผ่าไม้กลัดจาก 1 ซึ่งแต่ละอันจะผ่าได้ 2 , 3, หรือ 4 ขึ้นอยู่กับขนาดของแต่ละอัน
3. ตัดไม้กลัดจาก 2 ซึ่งแต่ละอันจะตัดได้ 2 หรือ 3 ซึ่งจะเหมาะกับการกลัดกรวย
– จำนวนกรวยที่ต้องการใช้ประมาณ 60 กรวย ขนาดของกรวยที่ทำยาวประมาณนิ้วชี้ ปากกรวยกว้างประมาณหัวแม่โป้ง เริ่มจากฉีกใบตองกว้างประมาณ 3 – 4 นิ้ว เช็ดด้วยผ้าให้สะอาดทั้งสองด้าน
1. ม้วนใบตองให้เป็นกรวย
2. ใช้กรรไกร ตัดส่วนเกินทิ้งบางส่วน เพื่อความสะดวกในการทำให้กรวยแน่น
3. ดึงใบตองด้านในสุดขึ้นเล็กน้อย
4. ใช้นิ้วสอดลงในกรวย บิด/หมุนให้ใบตองแน่น
– ใบตอง/กรวยแน่นดีแล้ว ใช้ไม้กลัด/เข็มเย็บกระดาษเย็บ โดยกลัด/เย็บ บริเวณริมใบตองด้านนอกให้ต่ำกว่าขนาดความยาวของกรวยที่ต้องการเล็กน้อย
– ตัดปากกรวยอีกครั้งด้วยกรรไกร ตามขนาดความยาวที่ต้องการ ปากกรวยจะตัดตรงๆ หรือตัดให้เอียงก็ได้ครับ แล้วแต่ความชอบ ถ้าทำขนมสองสีจะตัดทั้งสองแบบ เพื่อจะได้แยกสีขนมก็ได้
– ประโยชน์อีกอย่างของการตัดกรวยเอียง จะหยิบขนมออกจากซึ้ง/ลังถึงได้ง่ายขณะที่ขนมยังร้อนแต่ขนมที่เสร็จแล้วอาจจะดูไม่สวยเหมือนปากกรวยตรง ก็คงแล้วแต่ความชอบ
– ได้กรวยแล้วก็ดูนิดนึงครับว่ากรวยรั่วหรือไม่รั่ว จำนวนกรวยควรทำมากกว่าที่จะใช้จริงเล็กน้อย เผื่อกรวยบางอันรั่วด้วยครับ
*** ถ้ากลัวกรวยรั่ว เมื่อทำตัวขนมเสร็จแล้ว นำตัวขนมที่ได้ กวนเล็กน้อยให้แป้งพอสุก ก่อนนำไปหยอดลงในกรวย ก็ได้ครับ แต่ก็ต้องระวังตอนกวนด้วย ถ้าแป้งสุกเกินไปจะทำให้นำแป้งนั้นมาหยอดลงในกรวยยาก ***
– ขนมกรวยดั้งเดิม จะไม่มีสี แต่ถ้าอยากจะให้มีสีด้วย ก็ทำได้ ใบเตยนอกจากได้สีแล้วก็เพิ่มความหอมให้ขนมด้วยอัญชันจะได้สีอย่างเดียว แต่กลิ่นใบตองจากกรวยก็พอมี ก่อนลงมือเตรียมแป้งตัวขนม ก็เตรียมส่วนที่อยากให้เป็นสีไว้ด้วย
– ตวงแป้งทั้งสามชนิดเข้าด้วยกัน เติมน้ำหรือน้ำใบเตย/อัญชัน ลงไปครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ นวดแป้งให้เป็นเนื้อเดียวกัน นวดแป้งดีแล้วเติมน้ำที่เหลือทั้งหมดลงไป พร้อมกับน้ำตาลทราย คนให้แป้งกับน้ำตาลตาลละลาย ปริมาณแป้งตัวขนมที่ได้ ประมาณ 400 ซีซี ซึ่งจะได้ขนม ประมาณ 60 กรวย แต่ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของกรวย และการหยอดแป้งลงในกรวยด้วย
– แป้งที่ได้จะตกตะกอนเร็วมาก ก่อนนำไปหยอดลงในกรวย คนให้แป้งกระจายตัวในน้ำให้ทั่ว เพื่อให้เนื้อขนมมีแป้งสม่ำเสมอ
– ตวงส่วนผสมหน้าขนมกรวย 3 – 6 รวมกัน นวดแป้งด้วยหางกะทิ แล้วจึงเติมกะทิทั้งหมดลงไป คนให้แป้งละลายและกรองด้วยกะชอน/ผ้าขาวบางก่อนนำไปใช้
– เตรียมทุกอย่างพร้อม ก็นำซึ้ง/ลังถึง เติมน้ำตั้งบนเตาได้เลย ระหว่างรอน้ำเดือด นำกรวยเสียบลงในซึ้ง/ลังถึงชั้นบนไปด้วย
**เว้นไว้บางส่วนเพื่อให้ไอน้ำมีทางผ่านด้วย**
– กรวยที่เสียบลงในซึ้ง/ลังถึง จะเสียบลงในซึ้งที่ซ้อนบนชั้นล่างแล้วซึ่งจะสะดวกกว่า และสามารถนึ่งกรวยให้ร้อนก่อนหยอดตัวขนมลงไปได้ ถ้าอยากให้คนในบ้านมีส่วนร่วม ขณะที่ต้มน้ำก็นำซึ้งส่วนบนวางบนกะละมัง ขนาดที่พอดีกับซึ้งส่วนบน เพื่อเสียบกรวย และหยอดตัวขนมไปด้วยก็ได้
– ตัวขนมนึ่งด้วยไฟแรงประมาณ 10 นาที ตัวขนมที่สุกแล้ว
– ตัวขนมสุก ลดไฟลงให้อ่อนที่สุด เพื่อหยอดหน้าขนมลงในกรวย อาจจะร้อนจากไอน้ำนิดนึง หยอดหน้าแล้วนึ่งด้วยไฟกลาง ประมาณ 5 นาที ถ้านึ่งด้วยไฟแรงหน้าขนมอาจจะไม่สวย และมีโอกาสล้นออกนอกกรวย ถึงแม้จะนึ่งด้วยไฟกลางแล้วก็ตาม หากนานเกินไปหน้าขนมก็ไม่สวยได้เช่นกัน ก็คงต้องอาศัยการเปิดฝาซึ้ง/ลังถึง
– หน้าขนมที่ คิดว่า ไม่สวย
– ตัวขนมและหน้าตามสัดส่วนนี้ จะลงตัวพอดีกันหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการหยอดตัวขนม ถ้าหยอดตัวขนมมากไป ส่วนหน้าขนมก็จะเหลือ ถ้าไม่อยากทิ้งก็หยอดลงในกรวย แล้วนึ่งไปพร้อมกับการนึ่งครั้งที่สองก็ได้ แต่จะได้ขนม ที่ค่อนข้างเค็ม ซึ่งก็มีบางคนชอบกิน และขอให้นึ่งเฉพาะส่วนหน้าอย่างเดียว ถ้าหน้าขนมเหลือก็ลองนึ่งดู
.
– สำหรับใครที่คิดถึงขนมกรวยของยาย ก็น่าจะพอหายคิดถึงได้บ้างนะคะ แต่คงไม่อร่อยเท่าที่ยายทำเพราะถ้ายายทำต้องมาจาแป้งสด ซึ่งโม่เอง
.
ขอขอบคุณข้อมูลจาก คุณสายอ้อ สมาชิกเว็บพันทิป.